ปฏิทิน

วันเสาร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2553

ภาษา

ภาษาอีสาน

ภาษาพูดของคนอีสานในแต่ละท้องถิ่นนั้นจะมีสำเนียงที่แตกต่างกันออกไป ตามสภาพทางภูมิศาสตร์ที่มีอาณาเขตติดต่อกับถิ่นใดรวมทั้งบรรพบุรุษของท้องถิ่นนั้นๆด้วย เช่น แถบจังหวัดศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ มีชายแดนติด กับเขมร สำเนียงและรากเหง้าของภาษาก็จะมีคำของภาษาเขมรปะปนอยู่ด้วย ทางด้านจังหวัด สกลนคร นครพนม มุกดาหาร หนองคาย เลย ที่ติดกับประเทศลาวและมีชาวเวียดนามเข้ามาอาศัยอยู่ค่อนข้างมากก็จะมีอีกสำเนียงหนึ่ง ชนเผ่าดั้งเดิมที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้นๆ ก็จะมีสำเนียงที่มีเอกลักษณ์เป็นของตนเองและยังคงรักษาเอกลักษณ์นั้นไว้ ตราบจนปัจจุบัน เช่น ชาวภูไท ในจังหวัดมุกดาหารและนครพนม ถึงแม้ชาวอีสานจะมีภาษาพูดที่มีความแตกต่างกันในแต่ละท้องถิ่น แต่ในภาษาอีสานก็มีสิ่งหนึ่งที่ยังคงมีความคล้ายกันก็คือ ลักษณะของคำและความหมายต่างๆ ที่ยัง คงสื่อความถึงกันได้ทั่วทั้งภาค ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ชาวอีสานต่างท้องถิ่นกันสามารถสื่อสารกันได้เป็นอย่างดี ถ้าจะถามว่าภาษาถิ่นแท้จริงของชาวอีสานใช้กันอยู่ที่ใดคงจะตอบไม่ได้ เพราะภาษาที่คนในท้องถิ่นต่างๆใช้กันก็ล้วนเป็นภาษาอีสานทั้งนั้น ถึงแม้จะเป็นภาษาที่มีความแตกต่างกัน แต่ก็มีรากศัพท์ในการสื่อความหมายที่คล้ายคลึงกัน ในปัจจุบันชาวอีสานตามเมืองใหญ่ โดยเฉพาะเด็กวัยรุ่นได้หันมาใช้ภาษาไทยกลางกันมากขึ้น เพราะวัยรุ่นเหล่านี้ส่วนใหญ่ได้รับการศึกษาที่ดีเทียบเท่ากับคนในภาคกลางหรือกรุงเทพมหานคร ทำให้ภาษาอีสานเริ่มลดความสำคัญลง เช่นเดียวกันกับภาษาพื้นเมืองของภาคอื่นๆ แต่ผู้คนตามชนบทและคนเฒ่าคนแก่ยังใช้ภาษาอีสานกันเป็นภาษาหลักอยู่ ทั้งนี้คนอีสานส่วนใหญ่จะสามารถสื่อสารได้ทั้งภาษาอีสานของท้องถิ่นตนเองและภาษาไทยกลาง หากท่านเดินทางไปในชนบทของอีสานจะพบการใช้ภาษาถิ่นที่แตกต่างกันไปดังที่กล่าวมาแล้ว แต่คนอีสานเหล่านี้โดยเฉพาะวัยรุ่นหนุ่มสาวก็จะสามารถสื่อสารกับท่านเป็นภาษาไทยกลางได้อีกด้วย ทั้งนี้เพราะวัยรุ่นชาวอีสานใหญ่จะเข้ามาหางานทำในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เมื่อก่อนจะไปหางานทำเฉพาะหลังฤดูทำนา แต่ในปัจจุบันวัยรุ่นส่วนใหญ่จะเข้ากรุงเทพฯและทำงานที่นั่นตลอดทั้งปี ชาวอีสานที่ไปต่างถิ่นนอกจากจะหางานทำแล้ว ก็ยังมีการเผยแพร่วัฒนธรรมรวมทั้งภาษาของตนเองไปในตัว จะเห็นได้จากในปัจจุบันชาวไทยจำนวนมากเริ่มเข้าใจภาษาอีสาน ทั้งจากเพลงลูกทุ่งภาษาอีสานที่ได้รับความนิยมกันทั่วประเทศและจากคนรอบตัวที่เป็นคนอีสาน ทำให้ภาษาอีสานยังคงสามารถสืบสานต่อไปได้อยู่ถึงแม้จะมีคนอีสานบางกลุ่มเลิกใช้ละมะเขือลาย หรือผักอื่นๆ

ภาษาอีสาน

ข้อยเป็นอีสาน บ่แม่นลาว
เห็นหลายคนชอบบอกว่าภาษาอีสาน คือภาษาลาว แม้แต่คนอีสานเองก็บอกว่าตัวเอง เว่าลาว ฮ่วย! อีสานบ่แม่นลาว แค่คล้ายๆ กัน ไหนๆ ก็ว่าเหมือนกันแล้ว เลยลองยกตัวอย่างว่าภาษาอีสาน กับภาษาลาว ที่ว่าเหมือนกัน มันเหมือนกันยังกะจะเป็นแกะจริงๆ จากหนังสือ ສະເໜພາສາລາວ(เสน่ห์ภาษาลาว) ของพิษณุ จันทร์วิทัน มาดูว่ามีคำไหนที่ภาษาอีสานและภาษาลาวเหมือนกันบ้างเถิง, ฮอด แปลว่า ถึง เช่น ส่งหนังสือเถิง, คิดฮอด หรือไปฮอด เป็นต้นเข้าเปียก แปลว่า ข้าวต้มแว่นแยง แปลว่า กระจกส่องหน้าแว่น แปลว่า กระจก (ไม่ได้หมายถึงแว่นตา)สู้ซน แปลว่า ต่อสู้กับอุปสรรคภูดอย แปลว่า ภูเขาแต่งดอง แปลว่า แต่งงานฮัก แปลว่า รักปด แปลว่า ปลดเกิบ แปลว่า รองเท้า (ปดเกิบ ก็ถอดรองเท้า)ฮ้าย แปลว่า ดุ, ร้าย (ระวังหมาฮ้าย คือระวังหมาดุ แต่ในภาษาอีสานยังไม่เห็นใช้หมาฮ้าย)บ่อน แปลว่า ที่ บ่อนนั่ง ก็คือ ที่นั่งดน แปลว่า นาน บ่ดน แปลว่าไม่นานเทือ แปลว่า ครั้งหว่างแล้ว หมายถึง ช่วงที่ผ่านมาโส้ง แปลว่า กางเกง แต่ภาษาอีสานจะออกเสียงเป็น ส่ง มากกว่าบ่วง แปลว่า ช้อนก็ยังมีอีกหลายคำ ยกตัวอย่างพอให้เห็นว่าภาษาลาว และภาษาอีสาน ที่เหมือนกันก็เยอะ หลายคนจึงชอบเรียกภาษาอีสานว่า ภาษาลาว ที่เหมือนก็เพราะมีที่มาที่ไป คงต้องว่ากันยาว ต้องเก็บไว้ก่อน ลองมาดูคำอื่นของเขาที่ไม่เหมือนเราบ้างเคื่องคื่นเสียง คือ ultra soundโทรภาพ คือ โทรทัศน์กาซวลพิเศษ คือ น้ำมันดีเซลหมุนเร็วแอดซังธรรมดา คือ น้ำมันเบนซินไร้สาร 91ฟุตบอล คือ หมากบาน (สันนิษฐานว่ามาจากอิทธิพลของภาษาฝรั่งเศสว่า la balle)เดิ่น คือสนาม เดิ่นยนคือสนามบิน เดิ่นบาน คือ สนามฟุตบอล


แหล่งที่มาของข้อมูล

1. http://student.nu.ac.th/isannu/isanculture/language1.htm
2. http://lang4fun.blogspot.com/2004/11/blog-post_110079704336551417.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

 
Copyright 2009 piromkraipak. Powered by Blogger
Blogger Templates created by Deluxe Templates
Wordpress by Wpthemesfree